วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภูฝอยลม แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศชั้นดี


ภูฝอยลม แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศชั้นดีแห่งภาคอีสาน
ภูฝอยลม ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพันดอน-ปะโค ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี มีสภาพเป็นพื้นที่โล่งบริเวณยอดเขาของเทือกเขาภูพานน้อย มีความสูงจากกระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 600 เมตร
ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ว่า เดิมภูฝอยลมเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญมีสภาพอุดมสมบูรณ์ มีความอากาศหนาวเย็น และมีความชุ่มชื้นสูงมาก จนเกิดสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า“ฝอยลม” ขึ้น และเป็นที่มาของชื่อภูแห่งนี้

ตำนานฝอยลมที่หลงเหลือเพียงภาพจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ล้านปีภูฝอยลม
ฝอยลมเป็น “ไลเคน”ชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่ม เป็นไลเคนประเภทพุ่มกอ มีลักษณะเป็นเส้นฝอยสีเขียวปนเทา เกาะอาศัยอยู่ตามลำต้น ตามกิ่งของต้นไม้ขนาดใหญ่ และสามารถกระจายไปได้ทั่วบริเวณ
ฝอยลมเป็นไลเคนที่พบหาได้ยาก เพราะมันจะเจริญเติบโตเฉพาะในผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่มีความชุ่มชื้นสูงและมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ซึ่งป่าภูฝอยลมในอดีตนั้นมีลักษณะเช่นนี้
อย่างไรก็ดีป่าภูฝอยลมอัน(เคย)อุดมสมบูรณ์นั้น ดูจะมีสภาพไม่ต่างจากป่าหลายๆแห่งในเมืองไทย เพราะป่าผืนนี้ได้ถูกผู้คนบุกรุกทำลายจนสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์กลับกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ส่วนฝอยลมที่เคยมีอยู่เป็นจำนวนมากก็ค่อยๆลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ก่อนจะสูญหายไปกลายเป็นตำนานของฝอยลมแห่งภูฝอยลมให้คนรุ่นหลังถามว่า “ฝอยลม มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร”

วัฒนธรรมชาวเรณู


gallery      
     อ.เรณูนคร จ.นครพนม
เรณูนคร เรณูนครเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวภูไท ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นไว้เป็นอย่างดี อาทิ ธรรมเนียมการต้อนรับด้วยการบายศรีสู่ขวัญ การเลี้ยงอาหารแบบพาแลง การชวนดูดอุ (ชวนกันไปดื่มเหล้าหมักที่อยู่ในไห) การฟ้อนรำผู้ไทย นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกต่าง ๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงอีกมากมาย โดยเฉพาะบริเวณวัดพระธาตุเรณู และตลาดอำเภอเรณูนคร
   
      การฟ้อนภูไทนับเป็นการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมแบบพื้นเมืองอย่างหนึ่งของชาวภูไทที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน จากบรรพบุรุษของชาวเผ่าภูไท ในสมัยก่อนเรียกการฟ้อนรำแบบนี้ว่า “ฟ้อนละครไทย” เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความสามัคคีในหมู่คณะเดียวกัน โดยการจับกลุ่มเล่นฟ้อนรำกันอย่างสนุกสนานในงานเทศกาลเดือนห้าและเดือนหก ซึ่งจะมีประเพณีบุญบั้งไฟและมีการเฉลิมฉลองเพื่อนมัสการองค์พระธาตุเรณู ในการฟ้อนรำสมัยก่อนนั้น เป็นการฟ้อนรำตามความถนัดและความสามารถ ความชำนาญของแต่ละบุคคล ไม่ได้เน้นความเป็นระเบียบหรือความพร้อมเพรียงกัน แต่เน้นลีลาท่าฟ้อนรำต่าง ๆ  ที่แสดงออกมา ส่วนมากเป็นผู้ชายล้วน ๆ จับกลุ่มฟ้อนรำกันเพื่ออวดสาว ๆ ปัจจุบันเป็นการฟ้อนรำของหญิงชายคู่กัน โดยยึดการรำแบบดั้งเดิมเป็นหลัก นับเป็นศิลปะที่สวยงามละเอียดอ่อนหาดูได้ยากยิ่งในปัจจุบัน   
             
      การเดินทาง อยู่ห่างจากพระธาตุพนม ๑๕ กิโลเมตรห่างจากตัวจังหวัดนครพนมไปทางใต้ ๕๑ กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ ถึงประมาณกิโลเมตรที่ ๔๔ เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข ๒๐๓๑ อีกประมาณ ๗ กิโลเมตร ทางลาดยางตลอด

ศาลเจ้าแม่ที่ชาวมุกนับถือ


gallery ตั้งอยู่ ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง  
ตั้งอยู่บนถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขง ติดกับท่าด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร ศาลแห่งนี้เดิมเป็นศาลไม้ไม่ทราบประวัติความเป็นมา ต่อมาได้มีการบูรณะเป็นศาลคอนกรีต ชาวจังหวัดมุกดาหารถือว่าศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่กับศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวจังหวัดมุกดาหารจะจัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองและเจ้าแม่สองนางพี่น้องพร้อมกันนถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขง ติดกับท่าด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร ศาลแห่งนี้เดิมเป็นศาลไม้ไม่ทราบประวัติความเป็นมา ต่อมาได้มีการบูรณะเป็นศาลคอนกรีต ชาวจังหวัดมุกดาหารถือว่าศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่กับศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวจังหวัดมุกดาหารจะจัดให้มีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองและเจ้าแม่สองนางพี่น้องพร้อมกัน  

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์


พิพิธภัณฑ์สิรินธร กาฬสินธุ์




ตั้งอยู่ที่เชิงภูกุ้มข้าว อำเภอสหัสขันธ์ สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ (ทางหลวง 227) ประมาณ 28 กิโลเมตร (ก่อนถึงสหัสขันธ์ 2 กิโลเมตร) มีทางแยกขวาไปอีก 1 กิโลเมตร บริเวณภูกุ้มข้าว ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ของวัดสักกะวัน เป็นสถานที่ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์จำนวนมาก รวมทั้งโครงกระดูกไดโนเสาร์ทั้งตัวที่สมบูรณ์ที่ฝังอยู่ในพื้นดินและได้รับการขุดแต่งโดยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี
พิพิธภัณฑ์สิรินธร หรือพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว เป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “พิพิธภัณฑ์สิริธร” การจัดแสดงภายในอาคารแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การกำเนิดโลก ส่วนที่ 2 การกำเนิดของสิ่งมีชีวิตซึ่งรวมถึงไดโนเสาร์ จนถึงการกำเนิดมนุษย์ ส่วนที่ 3 เป็นนิทรรศการหมุนเวียน ปัจจุบันกำลังจัดแสดงนิทรรศการ “ซากดึกดำบรรพ์ปลาภูน้ำจั้น” ซึ่งเป็นซากปลาน้ำจืดโบราณพันธุ์ใหม่ของโลกซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีชื่อว่า “เลปิโดเทส” มีความยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตรอยู่ในยุคมีโซโซอิก หรือ 65 ล้านปีที่แล้ว ช่วงเดียวกับไดโนเสาร์

ผาแต้ม




สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน

ผาแต้ม
ที่สถานที่ท่องเที่ยวผาแต้มมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยต้อนรับและพาลัดเลาะดูภาพเขียนสีโบราณที่เรียงรายตามหน้าผา สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งแบ่งเป็น ๔ กลุ่มคือ กลุ่มแรกอยู่ที่ผาขาม กลุ่มที่สองอยู่ที่ผาแต้ม กลุ่มที่สามอยู่ที่ผาหมอนน้อย และกลุ่มที่สี่ผาหมอน ล้วนบอกเล่าเรื่องราวการดำเนินชีวิต และอารยธรรมของชุมชนลุ่มน้ำโขงในยุคก่อนย้อนไปกว่า ๓,๐๐๐ ปี ภาพที่ชัดเจนที่สุดและดีที่สุดคือภาพกลุ่มที่สอง มีภาพช้าง เต่า ปลาบึก ปลากระเบนน้ำจืด ตุ้ม ฝ่ามือ ไม่น่าเชื่อว่ารอยทางแห่งอดีตนั้นยังคงชัดเจนอยู่จนถึงปัจจุบันสมแล้วที่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมหัศจรรย์หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์



หินโบก



อุบลราชธานี

อุบลราชธานี
 
เที่ยวแบบหิน หิน ในถิ่นอีสาน อุบลราชธานี 

          ช่ว่าช่วงหน้าร้อนจะไม่มีอะไรสวย ๆ ให้ดูกัน เพราะทุกสิ่งย่อมมีสองด้านเสมอ วันนี้เราเลยขอพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน กันบ้าง โดยประเดิมที่ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดที่มีเนื้อที่มากที่สุดในประเทศไทย ก่อนที่จะถูกแบ่งเนื้อที่ออกเป็นจังหวัดยโสธรและจังหวัดอำนาจเจริญ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 629 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 8-10 ชั่วโมง 

          สถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้มีให้เลือกเที่ยวกันหลายแบบ จะไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมโบราณสถาน เที่ยวชมความงามตามธรรมชาติ ดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน งานหัตถกรรม หรือจะเที่ยวกันตามประเพณี จังหวัดนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน และเพื่อให้เข้ากับอุณหภูมิอากาศร้อน ๆ อันแสนยาวนานของบ้านเรา ณ ขณะนี้ เราเลยพาคุณไปตะลุยองศาความร้อนกันมากยิ่งขึ้นกับการท่องเที่ยวทางธรรมชาติของทริป "เที่ยวแบบหิน หิน ในถิ่นอีสาน" ชมประติมากรรมทางธรรมชาติของก้อนหินและสายน้ำที่สร้างสรรค์ไว้ให้เราได้ชมกันอย่างงดงามแสนประทับใจ

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภูกระดึง




                                      


                        สุดยอดขุนเขาแห่งการท่องเที่ยว...ภูกระดึง 
         
 เมื่อเอ่ยถึงภูเขา สิ่งที่ไปกันได้ดีก็คือเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะบนภูเขามีสิ่งดึงดูดความสนใจให้ขึ้นไปเที่ยวชมมากมาย อย่างพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ป่าใหญ่ๆ ดอกไม้ป่างามๆ น้ำตกบึ้มๆ หน้าผาและจุดชมวิวสวยๆ ไม่เพียงเท่านั้นอุณหภูมิบนภูเขาทั้งกลางวันกลางคืนก็หนาวเย็น สร้างบรรยากาศโรแมนติก ชวนให้เบียดกายใกล้ชิดสนิดแนบ เหมาะแก่การพาคู่รักหรือเพื่อนร่วมใจไปสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศ ภูเขาจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับของผู้คนทั่วโลก

          แนวทิวเขาของอีสานประกอบไปด้วยแนวทิวขาเพชรบูรณ์และแนวทิวเขาดงพญาเย็น ที่เป็นเสมือนสันกั้นพรมแดนระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน จากที่ราบลุ่มภาคกลางจะขึ้นสู่ที่ราบสูงอีสานก็ต้องทะลุแนวภูเขานี้ขึ้นไปทั้งสิ้น ต่ำลงมาประชิดกับภาคตะวันออกชายฝั่งทะเล คือเทือกเขาสันกำแพง ที่ด้านหนึ่งเป็นจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้ว กับอีกด้านหนึ่งก็คือพื้นที่อำเภอโนนสูง เสิงสาง และครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ทิวเขานี้ยังเชื่อมโยงต่อไปถึงพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวกั้นอีสานกับดินแดนกัมพูชาและ สปป. ลาว และทั้งหมดนี้ก็คือ แนวภูเขาที่กั้นอีสานออกเป็นเอกเทศ แทบจะเป็นที่ราบกลมๆ บนที่สูง จากอีสานจะลงมาภาคกลางหรือไปภาคเหนือ อย่างไรเสียก็ต้องเจอภูเขา จะไปตามทางราบๆ ตลอดไม่ได้